หลักการใช้ Present Simple Tense + Present Continuous Tense และตัวอย่าง

โครงสร้าง และ หลักการใช้ Present Simple Tense + Present Continuous Tense และตัวอย่าง

สวัสดีค่ะ ยังพอจำเรื่องเกี่ยวกับ Tense – กาลในภาษาอังกฤษ กันได้ใช่ไหม เรามาลองทบทวนกันดูอีกทีดีมั๊ยคะ สำหรับตอนนี้เรามาดูโครงสร้างทางไวยากรณ์และการใช้ Present Simple Tense และ Present Continuous Tense พร้อมกับตัวอย่างกัน สำหรับเพื่อนๆหลายคนคงที่ยังอาจสับสนกับเรื่อง “กาลของภาษาอังกฤษ” หรือที่เราเรียกกันว่า “Tense (เท็นซ)” ก็สามารถเข้าไปอ่านเรื่อง “มุมมองของ Tense 12 Tenses แบบจำง่ายเข้าใจไม่ยาก” ก่อนก็ได้นะคะ แต่ถ้าพร้อมแล้วตอนนี้เรามาเข้าเรื่อง Tense; กาลในไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ ตอน หลักการใช้ Present Simple Tense + Present Continuous Tense และดูตัวอย่างการใช้กันเลยดีกว่าค่ะ

หลักการใช้ Present Simple Tense

—– เราใช้ Present Simple Tense เพื่อกล่าวถึงกาลปัจจุบัน สภาพที่เป็นอยู่ปัจจุบัน และ การกระทำที่เราปฏิบัติเป็นปรกติเป็นประจำหรือเป็นกิจวัตร เช่น

She comes to school by bus.
เธอมาโรงเรียนโดยรถเมล์ (เป็นปรกติ)

I live in Prae.
ฉันอยู่ที่แพร่ค่ะ (หมายถึงในปัจจุบัน)

He usually wears a hat.
เขามักจะสวมหมวกเสมอ

—– เราใช้ Present Simple Tense เพื่อกล่าวถึงสิ่งที่เป็นจริง หรือสิ่งที่เราถือกันว่าเป็นความจริง ตัวอย่างเช่น

The sun rises in the east and sets in the west.
พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก

The moon shines at night.
พระจันทร์ส่องสว่างในตอนกลางคืน

Monkeys eat bananas.
ลิงกินกล้วย

—– เราใช้ Present Simple Tense หลังคำเชื่อมประโยคคือ if, before, till, until, unless, when เมื่อเราต้องการระบุหรือบ่งบอกถึงกาลในอนาคต ตัวอย่างเช่น

I’ll go unless it rains.
ฉันจะไปเว้นแต่ว่าฝนตก (หากฝนไมตกฉันจะไป)

She will not talk to him if he does not apologize to her.
เธอจะไม่พูดกับเขาถ้าหากว่าเขาไม่ขอโทษเธอ

He’ll help her if she asks him.
เขาจะช่วยเธอถ้าเธอขอร้องเขา

(แก้ไขเพิ่มเติม 25 กุมภาพันธ์ 2551)
—– ขอเพิ่มเติมเนื้อหาอีกกรณีหนึ่งนะคะ คือ เราสามารถใช้ Present Simple ได้กับกาลที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เดี๋ยวนี้ (now) แต่ใช้ได้เฉพาะกับ Non-Continuous Verbs เช่น to like, to love, to hate, to dislike, to fear, to be, to want, to cost, to seem, to need, to care, to own, to belong… ฯลฯ และ Mixed Verbs เช่น to appear, to feel, to have, to hear, to look, to see, to weight… ฯลฯ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น

I am here now.
ตอนนี้ฉันอยู่ที่นี่แล้ว

She is not here now.
ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี่

He needs help right now.
เขาต้องการความช่วยเหลือเดี๋ยวนี้เลย

He does not need help now.
เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือในขณะนี้

He has his passport in his hand.
เขามีพาสปอร์ตอยู่ในมือของเขาแล้ว(ในขณะนี้)

Do you have your passport with you?
คุณมีพาสปอร์ตติดตัวมาด้วย(ในขณะนี้)หรือเปล่า

*** ดูเพิ่มเติมเรื่อง ตัวอย่างประโยค present simple tense พร้อมคำอธิบายหลักการใช้ present simple tense อย่างละเอียด

เพื่อนๆ อย่าลืมเข้าไปทำแบบฝึกหัดกันด้วยนะคะ – แบบฝึกหัด Present Simple Tense พร้อมเฉลยและคำอธิบาย

หลักการใช้ Present Continuous Tense

—– เราใช้ Present Continuous Tense ในความหมายว่า ตอนนี้กำลัง (ทำอะไรอยู่สักอย่าง) ตัวอย่างเช่น

Ying is having breakfast now.
ตอนนี้หญิงกำลังทานอาหารเช้าอยู่

Tanggwa is watching TV.
แตงกวากำลังดูทีวี (กำลังดูอยู่ในตอนนี้ แม้ในประโยคจะไม่ได้ระบุคำว่า now ก็ตาม)

I‘m reading a novel.
ฉันกำลังอ่านนวนิยายอยู่ค่ะ

Listen! Fuy is singing.
ฟังสิ ฝ้ายกำลังร้องเพลงอยู่

—– เราใช้ Present Continuous Tense ในการระบุถึงอนานาคตในความหมายว่า “จะ” ตัวอย่างเช่น

Tanggwa is leaving for Chiang Mai next week.
แตงกวาจะไปเชียงใหม่อาทิตย์หน้า

My friend is giving her birthday’s party tomorrow.
เพื่อนฉันจะจัดงานวันเกิดพรุ่งนี้

—– อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสำหรับกริยาจำนวนหนี่ง ซึ่งเรามักจะไม่ใช้ในรูป Present Continuous ได้แก่ ชอบ, เกลียด, รัก, เชื่อ, เข้าใจ และ กริยาในลักษณะทำนองนี้ ฯลฯ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น

I believe you.
ฉันเชื่อคุณ (เรามักจะไม่พูดว่า I’m believing you. หรือ ฉันกำลังเชื่อคุณ)

I love book.
ฉันรักหนังสือ (เรามักจะไม่พูดว่า I’m loving book. หรือ ฉันกำลังรักหนังสือ)

She wants you.
เธอต้องการคุณ (เรามักจะไม่พูดว่า She is wanting you. หรือ เธอกำลังต้องการคุณ)

ก็พอสมควรแล้วนะคะสำหรับ หลักการใช้ Present Simple Tense + Present Continuous Tense และตัวอย่าง ชักจะมึนๆกันหรือยังคะ วันนี้พักแค่นี้ก่อนดีมั๊ย เอาไว้มาต่อกันคราวหน้าดีกว่าเนาะ

สำหรับ “Tense; กาลในไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ” ตอนต่อไปจะมาว่ากันต่อด้วยเรื่องหลักการใช้ Present Perfect Tense กับ Present Perfect Continuous Tense ค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ อ้อ! แล้วก็อย่าลืมติดตามอ่านมุมมองของ Tense 12 Tenses แบบจำง่ายๆเข้าใจไม่ยากได้ที่นี่นะคะ ขอบคุณค่ะ