Modal Verbs; Can, could, may, might, must เป็นกริยาช่วยที่มีความหมายในตัวเอง เรามาดูความหมายและวิธีการใช้ Can, could, may, might, must พร้อมตัวอย่างประโยคและคำแปลไปพร้อมกันเลยนะคะ
การใช้ Can/Could
Could เป็น Past Form ของ Can
Can/Could (for Ability) ใช้เพื่อบอกว่าสามารถทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง (Could ใช้พูดถึงอดึต) ตัวอย่างประโยคเช่น
ประโยคบอกเล่า: I can play piano.
ประโยคปฏิเสธ: He can’t speak French.
ประโยคคำถาม: Can you speak English?
I could swim when I was young.
ตอนสาวๆ ฉันเคยว่ายน้ำได้นะ
I could see that Surachai was angry.
ฉันเห็นเลยว่าตอนนั้นสุรชัยเค้าโกรธ
They couldn’t dance very well.
เมื่อก่อนพวกเค้าไม่สามารถเต้นได้ดีมาก(เหมือนตอนนี้)
เราใช้ could + have + past participle (V3) เพื่อบอกว่าใครบางคนมีความสามารถ หรือมีโอกาสที่จะทำบางสิ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำมัน หรือยังไม่ได้ทำมัน ตัวอย่างเช่น
She could have learned Chinese, but she didn’t want to.
เธอมีโอกาสที่จะเรียนภาษาจีน แต่เธอไม่ต้องการ
I could have slept all night. [but I didn’t]
ฉันสามารถนอนได้ทั้งคืน (แต่ก็ไม่ได้นอน)
I could have done it by myself.
ฉันสามารถทำมันได้ด้วยตัวเอง (แต่ยังไม่ได้ทำ)
Can/Could (for Permission) ใช้เพื่อขออนุญาต (การใช้ Could จะฟังดูสุภาพมากกว่า), บอกอนุญาต ตัวอย่างประโยคเช่น
Can I leave now?
Can I raise the volume?
“Can I use your bathroom?” “Yes, you can.”
“Dad, can I drive the car?” “Well, you can drive it.”
Could you repeat that again?
ช่วยทวนซ้ำอีกทีได้ไหมคะ?
You could sit here if you like.
คุณสามารถนั่งที่นี่ได้นะคะถ้าคุณชอบ
Can/Could (for Requests or Suggestions or Offers) ใช้เพื่อร้องขอบางสิ่ง (การใช้ Could จะฟังดูสุภาพมากกว่า), เสนอแนะ หรือ เสนอให้ความช่วยเหลือ ตัวอย่างประโยคเช่น
Can we have more coffee?
เราขอกาแฟเพิ่มอีกหน่อยได้มั๊ย?
Could we have more coffee?
ขอกาแฟเพิ่มอีกสักหน่อยได้ไหมคะ?
Can I have more napkins?
ขอผ้าเช็ดปากเพิ่มได้ไหม?
Could I have more napkins?
ขอผ้าเช็ดปากเพิ่มอีกหน่อยได้ไหมคะ?
You can do whatever you want.
ทำอะไรตามที่เธอต้องการได้เลยนะ
You could do whatever you want.
คุณสามารถทำอะไรตามที่ต้องการได้เลยนะคะ
You can’t smoke in this room.
สูบบุหรี่ในห้องนี้ไม่ได้นะ
You couldn’t smoke in this room.
คุณไม่สามารถสูบบุหรี่ในห้องนี้ได้นะคะ
Can I help you?
ให้ฉันช่วยมั๊ย
Can I do that for you?
ให้ฉันทำให้มั๊ย
Can (for Possibility and Impossibility) ใช้บอกถึงบางสิ่งที่เป็นไปได้ และ can’t หรือ cannot ใช้บอกถึงบางสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือไม่น่าเป็นไปได้ ตัวอย่างประโยคเช่น
It can be very cold here in winter.
ในฤดูหนาวที่นี่อาจจะหนาวมาก (บางครั้งที่นี่มันหนาวมากในฤดูหนาว)
You can easily get lost in this town.
เธออาจจะหลงทางได้ง่ายในเมืองนี้ (ผู้คนมักจะหลงทางในเมืองนี้)
That can’t be true.
นั่นมันเป็นไปไม่ได้เลย
“I’m joining the army.” “You can’t be serious.”
“ฉันจะเข้าร่วมกองทัพ” “คุณคงไม่พูดจริงๆหรอกนะ (มันไม่จริงใช่มั๊ย)”
Could, Couldn’t (for Possibility and Impossibility) แม้ Could จะมีรูปเป็น Past ของ Can แต่ในกรณีนี้เรามักใช้พูดถึงสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ในอนาคต ตัวอย่างประโยคเช่น
This holiday could be really good.
วันหยุดนี้น่าจะเป็นวันที่ดีจริงๆ
You could go to the hairdresser tomorrow.
เธอน่าจะไปให้ช่างทำผมวันพรุ่งนี้นะ
They could come by car.
เขาอาจจะมาโดยรถยนต์ส่วนตัวก็ได้นะ
Could this really be true?
สิ่งนี้จะเป็นจริงได้จริงหรือ?
That couldn’t be true.
นั่นมันไม่น่าจะเป็นจริงหรอก
หมายเหตุ: เรามักใช้ cannot สำหรับการเขียนแบบเป็นทางการ
การใช้ May/Might
Might เป็น Past Form ของ May
May (for Formal Permission) ใช้ในการอนุญาต, ขออนุญาต (ค่อนข้างเป็นทางการ) ตัวอย่างประโยคเช่น
May I come in?
ฉันขออนุญาตเข้าไปข้างในได้ไหมคะ?
May I ask one question?
ฉันขอสอบถามสักคำถามนึงได้ไหมคะ?
You may say something now.
คุณอาจพูดอะไรบางอย่างในตอนนี้ได้นะ
May (to Suggest a Possibility) ใช้เสนอความเห็นว่าบางสิ่งอาจเป็นไปได้ ตัวอย่างประโยคเช่น
It may rain this evening.
เย็นนี้ฝนอาจจะตก
They may be late.
พวกเขาอาจจะสาย
He may agree with this plan.
เขาอาจจะเห็นด้วยกับแผนนี้
They may not be happy about what happened.
พวกเขาอาจไม่มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น
Might (to Suggest a Possibility) ใช้เสนอความเห็นว่าบางสิ่งอาจเป็นไปได้ (เหมือนกับการใช้ May แต่จะในความรู้สึกของผู้พูดอาจมีความมั่นใจว่ามีโอกาสเป็นไปได้น้อยกว่าการใช้ May) ตัวอย่างประโยคเช่น
He might have finished it.
เขาอาจจะทำมันเสร็จ
It might be bad weather tomorrow.
พรุ่งนี้อากาศอาจจะไม่ดีนัก
It might be right.
มันอาจจะถูกก็ได้
I might go see a doctor.
ฉันอาจไปพบแพทย์
You might have lost it.
คุณอาจจะสูญเสียมันไป
The store might have been closed today.
ร้านค้าอาจจะปิดวันนี้ (have been closed เป็น passive หมายถึงถูกปิด)
หมายเหตุ: สำหรับภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (American English) จะนิยมใช้ might ในการเสนอความเห็นว่าบางสิ่งอาจเป็นไปได้ มากกว่าการใช้ may
การใช้ Must
Must (ต้อง) – ใช้พูดถึงสิ่งที่ต้องทำ, เรื่องที่ต้องทำ, จำเป็นต้องทำ ตัวอย่างประโยคเช่น
I must finish the report today.
ฉันต้องทำรายงานให้เสร็จในวันนี้
I must complete the project by this week.
ฉันต้องทำโครงการให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้
Every car must have seat belts.
รถทุกคันต้องมีเข็มขัดนิรภัย
The building must have a fire alarm.
อาคารจะต้องมีสัญญาณเตือนไฟไหม้
You must answer my question right now.
คุณต้องตอบคำถามของฉันตอนนี้
ดูเรื่อง การใช้ must และ have to ใช้ต่างกันอย่างไร
Must ใช้เพื่อแสดงว่าบางสิ่งมีโอกาสหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้มาก ตัวอย่างประโยคเช่น
She must be very intelligent.
เธอจะต้องฉลาดมากแน่ๆ
You must be joking!
คุณต้องล้อเล่นแน่เลย!
There must be a lot of traffic. That’s why they’re late.
การจราจรต้องติดขัดมาก นั่นเป็นสาเหตุที่พวกเขามาสาย
There must be an accident.
มันต้องมีอุบัติเหตุแน่ๆ
You must be tired after your journey.
คุณต้องเหนื่อยหลังจากการเดินทางแน่นอน
Must not หรือ Mustn’t (ต้องไม่, อย่า) หมายถึง ข้อห้าม, ห้ามไม่ให้ทำ, ไม่อนุญาตให้ทำ อย่างเช่น
You mustn’t smoke on buses.
คุณต้องไม่สูบบุหรี่บนรถโดยสาร
(ดูเรื่อง การใช้ mustn’t และ don’t have to ใช้ต่างกันอย่างไร / needn’t (ไม่จำเป็นต้อง) กับ mustn’t (ต้องไม่, อย่า))
ดูเรื่องที่เกี่่ยวข้อง
– การใช้ modals possibility and certainty; could, may, might, must
– Modal Verbs-การใช้ Will Would Shall Should Ought to ตัวอย่างประโยค