หลักการใช้ must และ have to ใช้ต่างกันอย่างไร เรามักใช้ must เมื่อรู้สืกว่ามันมีความสำคัญหรือจำเป็นที่จะต้องทำ ส่วน have to มักใช้เมื่อต้องทำตามกฏหรือกฏหมาย หรือมีเหตุการณ์บังคับให้เราต้องทำ สังเกตนะคะว่า must กับ have to ใช้ในความหมายว่า “ต้อง” เหมือนกัน อาจจะมีความต่างกันเพียงเล็กน้อยในความจำเป็นของสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่เรามักใช้ must หรือ have to ได้ในสถานการณ์แบบเดียวกัน เพราะมันมีความสำคัญอีกทั้งยังเป็นกฏด้วย โดยความหมายไม่ต่างกันหรือต่างกันเพียงเล็กน้อยนะคะ เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น เรามาดูตัวอย่างประโยคการใช้ must และ have to กันเลยค่ะว่ามันใช้ต่างกันอย่างไร
ตัวอย่างประโยคการใช้ must
I must go now.
ฉันต้องไปเดี๋ยวนี้ (มีความจำเป็นที่จะต้องไป)
They must come today.
พวกเขาต้องมากันในวันนี้ (จำเป็นต้องมาในวันนี้)
Pranee must speak to my cousin.
ปราณีต้องพูดกับลูกพี่ลูกน้องของฉัน
ตัวอย่างประโยคการใช้ have to
Doctors sometimes have to work on Sunday.
บางครั้งหมอก็ต้องทำงานวันอาทิตย์ (เป็นกฏของโรงพยาบาล)
You have to drive slowly here.
คุณต้องขับช้าๆ ที่นี่
Sutee has to phone his father.
สุธีร์ต้องโทรหาพ่อของเขา
ในประโยคบอกเล่าบ่อยครั้งที่เรามักใช้ must หรือ have to ได้ในสถานการณ์แบบเดียวกัน เพราะมันมีความสำคัญอีกทั้งยังเป็นกฏด้วย โดยความหมายไม่ต่างกันหรือต่างกันเพียงเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น
In Thailand you must drive on the left.
ในประเทศไทยคุณต้องขับรถด้านซ้าย (จำเป็นที่จะต้องทำ)
In Thailand you have to drive on the left.
ในประเทศไทยคุณต้องขับรถด้านซ้าย (เป็นกฏ)
สำหรับประโยคคำถามเรามักจะใช้ do/does … have to (ไม่ใช้ must) เมื่อถามถึงบางสิ่งที่มีความจำเป็น มีความสำคัญ หรือ เป็นพันธะ เป็นภาระ ที่ควรปฏิบัติตามหลักหรือตามกฎ ตัวอย่างเช่น
Does Tanggwa have to get up early tomorrow?
พรุ่งนี้แตงกวาต้องตื่นแต่เช้ามั๊ย
Do we have to wait here?
คุณต้องรอที่นี่เหรอ
Do you have to work today?
วันนี้คุณต้องทำงานหรือเปล่า
ถึงตรงนี้เพื่อนๆ คงจะสังเกตุได้ว่า การใช้ must กับ have to ในรูปประโยคบอกเล่า จะมีความหมายใกล้เคียงกันมากหรือต่างกันก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ในตอนต่อไปเราจะไปพูดถึงการใช้ must กับ have to ในประโยคปฏิเสธ คือการใช้ mustn’t และ don’t have to ซึ่งจะมีความหมายที่ต่างกันอย่างชัดเจนค่ะ