เช่นเดียวกับคำกริยาทั่วไป phrasal verbs มักจะมีกรรม (objects) มารองรับการกระทำ (transitive phrasal verbs) แต่ phrasal verbs บางคำอาจไม่ต้องมี objects มารองรับก็ได้ (intransitive phrasal verbs) เราไปดูการใช้ Transitive/Intransitive Phrasal Verbs and Objects (กริยาวลีและกรรม) พร้อมตัวอย่างกันค่ะ
Transitive phrasal verbs คือ กริยาวลีที่มีกรรม (objects) มารองรับ ตัวอย่างประโยคเช่น
Please fill in your information.
กรุณากรอกข้อมูลของคุณ
Sutee has always looked down on me.
สุธีร์มักจะดูถูกฉันอยู่เสมอ
I just broke up with my boyfriend.
ฉันเพิ่งจะเลิกคบกับแฟน
Intransitive phrasal verbs คือ กริยาวลีที่ไม่ต้องมีกรรม (objects) มารองรับ ตัวอย่างประโยคเช่น
We broke up two years ago.
เราเลิกกันได้สองปีแล้ว
We have no choice but to carry on.
เราไม่มีทางเลือกนอกจากดำเนินการต่อ
I will drop in next Saturday.
ฉันจะแวะมาหาวันเสาร์หน้า
การเรียงลำดับคำ (word order)
Verb กับ adverb/preposition ที่ประกอบกันเป็น intransitive phrasal verb (ไม่มี object) จะต้องอยู่เรียงลำดับติดกันเสมอ อย่างเช่น
We broke up two years ago.
ไม่ใช่ We broke two years ago up.
Transitive verbs ที่มีกรรมตรง (direct object) เช่นคำนาม(noun) มารองรับ สามารถแยกจากกันโดยเอา object มาคั่นกลางได้ อย่างเช่น
They pulled the house down.
หรือ They pulled down the house. ก็ได้
ถ้า object เป็นคำสรรพนาม(pronoun) อย่างเช่น it, him, her, them ต้องเอา object มาคั่นกลางระหว่าง verb กับ adverb/preposition เสมอ อย่างเช่น
They pulled it down.
ไม่ใช่ They pulled down it.
ถ้า object เป็นกลุ่มคำยาวๆ เรามักจะวาง object ไว้หลัง phrasal verb เสมอ เช่น
Tanggwa put on a beautiful white hat.
(*** ดูเรื่อง Separable and Inseparable Phrasal Verbs)
*** ดูเรื่องที่เกี่ยวข้อง สรุปหลักการใช้ phrasal verbs
– แบบฝึกหัด phrasal verbs พร้อมเฉลย