วันนี้มีตัวอย่างการใช้ In – On – At ในการระบุเวลา (ใช้เป็น Prepositions of Time) มาให้ได้ทบทวนกัน ลองสังเกตดูดีๆ นะคะว่าเค้ามีการใช้ In – On – At ในลักษณะที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง (ดูรายละเอียดหลักการใช้เรื่อง การใช้ in on at กับเวลา กับสถานที่ และตำแหน่งของสิ่งของหรือบุคคล)

เพื่อนๆ หลายคนอาจจะยังสับสนในเรื่องเกี่ยวกับ Prepositions of Time โดยเฉพาะ การใช้คำว่า In – On – At สำหรับการระบุเวลา ในภาษาอังกฤษ กันอยู่ใช่ไหมคะ วันนี้เราจะนำเอา ตัวอย่างการใช้ In – On – At กับเวลา ที่ใช้กันบ่อยๆ มาฝากให้เพื่อนๆ ได้ทบทวนกันดูอีกครั้งนะคะ ย้ำอีกทีว่าให้สังเกตดูดีๆว่าเค้าใช้ในลักษณะที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ Continue reading ตัวอย่างการใช้ In – On – At กับเวลาใน ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ →

ตัวอย่างการใช้ Too – Enough คำว่า too มีความหมายว่า “เกินไป” ส่วนคำว่า enough มีความหมายว่า “เพียงพอ” Too – Enough มีความหมายต่างกันแต่กลับนำมาเขียนเป็นประโยคที่มีความหมายที่คล้ายกันหรือเหมือนกันได้

ขึ้นต้นเรื่องด้วยคำว่า พอแล้ว… มันเกินไป อย่างเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าวันนี้จะมาบ่นเรื่องอะไรให้ฟังกันนะคะ แต่วันนี้เราจะมาพูดกันถึงตัวอย่างของคำสองคำในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษซึ่งมีความหมายต่างกัน หรือ ตรงกันข้ามกัน แต่พอนำมาเขียนเป็นประโยคกลับได้ความหมายที่คล้ายๆ กัน หรือเหมือนกันได้ วันนี้ของยกตัวอย่างคำว่า “Too กับ Enough” ก็แล้วกันนะคะ Continue reading ตัวอย่างการใช้ Too – Enough พอแล้ว… มันเกินไป ในภาษาอังกฤษ →

การใช้ How far และ How long ในไวยาการณ์ภาษาอังกฤษ

การใช้ how far กับ how long ในภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเคยสับสนและใช้ผิดกันเป็นประจำใช่ไหมคะ เรามาดูรายละเอียดกันดีกว่าค่ะว่าเราควรจะใช้คำทั้งสองคำนี้ในโอกาสไหนบ้างจึงจะถูกต้อง

เราใช้ how far กับระยะทางในความหมายว่า “ไกลเท่าไร” ส่วน how long นั้นเราใช้กับเวลาในความหมายว่า “นานเท่าไร” เพื่อนๆ อย่าสับสนในการนำไปใช้นะคะ ลองดูตัวอย่างกันค่ะ Continue reading การใช้ How far และ How long ในไวยาการณ์ภาษาอังกฤษ →

การใช้ There is – There are – There was – There were ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ และตัวอย่างการใช้

สวัสดีค่ะ พบกันอีกเช่นเคยนะคะ วันนี้เรามาทบทวนเรื่องเกี่ยวกับการใช้ There is – There are – There was – There were ที่ใช้ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพร้อมกับตัวอย่างการใช้ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่บางคนยังอาจจะสับสนในการใช้กันอยู่บ้าง เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาดูรูปแบบวิธีการใช้และตัวอย่างการใช้ There is – There are – There was – There were กันเลยดีกว่าค่ะ Continue reading การใช้ There is – There are – There was – There were + ตัวอย่างการใช้ →

การใช้ So กับ Neither ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

คราวก่อนโน้น “รอบรู้ รักเรียน เพื่อนเด็ก เพื่อนวัยรุ่นและเยาวชน” ได้พูดถึงการใช้ so กับ such ไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันในเรื่องการใช้ so กับ neither กันบ้างนะคะ

การใช้ so ในรูปแบบ so + special verb + subject ใช้ในกรณีที่ประโยคนำเป็นประโยคบอกเล่านะคะ มีความหมายว่า “ก็เหมือนกัน” ตัวอย่างเช่น Continue reading การใช้ So กับ Neither ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ →

การใช้ so กับ  such ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

คำว่า so กับ such ในภาษาอังกฤษถ้าแปลกันตรงๆ เลยก็จะมีความหมายว่า มากจน หรือ มากจนถึงขนาดว่า ทั้งสองคำแปลออกมาได้เหมือนกัน แต่เอ… แล้วมันใช้ต่างกันยังไงนะ? วันนี้ “รอบรู้ รักเรียน เพื่อนเด็ก เพื่อนวัยรุ่นและเยาวชน” มีคำตอบให้ค่ะ มาดูกันต่อเลยนะคะ Continue reading การใช้ so กับ such ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ →

การใช้ anybody และ somebody ในภาษาอังกฤษและตัวอย่างประโยค

เพื่อนๆ เคยสับสนกันบ้างไหมคะเกี่ยวกับการใช้ anybody กับ การใช้ somebody ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ วันนี้เราจะนำเอาเรื่องนี้มาคุยกันพร้อมกับดูตัวอย่างประโยคสักหน่อยดีไหมคะ

คำว่า anybody นั้นเราจะใช้กันในประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ เราลองมาดูตัวอย่างประโยคการใช้ anybody กันนะคะ Continue reading การใช้ anybody และ somebody และตัวอย่างประโยค →

การใช้ still กับ yet – not…..yet และ already ในประโยคภาษาอังกฤษเราใช้ในความหมายที่ไม่เหมือนกัน มาดูตัวอย่างประโยคการใช้และความหมายของแต่ละคำกันค่ะ

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ วันนี้เรากลับมานำเสนอในเรื่องเกี่ยวกับการใช้ Still กับ Yet – not…..yet และ Already และตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ นะคะ

คำว่า still กับ yet – not…..yet และ already ในภาษาอังกฤษ แปลเป็นไทยได้ความหมายคล้ายๆ กัน แต่เพื่อนๆอย่าสับสนเกี่ยวกับการนำเอาไปใช้นะคะ  เนื่องจากสามคำนี้เราใช้ในความหมายที่ไม่เหมือนกันเลยค่ะ ลองพิจารณาดูนะคะ Continue reading การใช้ Still กับ Yet – Not…..yet และ Already ตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษ →

การใช้ since และ for เพื่อระบุเวลาหรือช่วงเวลา เราใช้ since ในความหมายว่า ตั้งแต่(เวลาใดเวลาหนึ่ง) ส่วน for นั้นเราใช้ในความหมายว่า เป็นเวลา (ช่วงเวลา) สองคำนี้มีความหมายคล้ายกัน แต่เราใช้ since กับ for ในความหมายที่ไม่เหมือนกันนะคะ

เรามาดู หลักการใช้ และ ตัวอย่างการใช้ Since และ For เพื่อระบุถึงเวลาหรือช่วงเวลาในภาษาอังกฤษกัน ซึ่งเพื่อนๆหลายคนอาจจะยังสับสนเกี่ยวกับการใช้ since และ for กันอยู่บ้าง เนื่องจากสองคำนี้ในภาษาอังกฤษมีความหมายคล้ายกันมาก Continue reading การใช้ Since และ For เพื่อระบุถึงเวลาหรือช่วงเวลาในภาษาอังกฤษ →

รูปแบบโครงสร้าง หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense พร้อมตัวอย่าง

สำหรับรูปแบบโครงสร้างของ Future Perfect Continuous Tense ก็มีสองรูปแบบคือ will have been doing และ be going to have been doing ซึ่งทั้งสองรูปแบบสามารถสลับสับเปลี่ยนใช้แทนกันได้โดยมีความหมายไม่ต่างกัน หรือต่างกันก็ไม่มากนัก เช่นเดียวกับ Future Perfect Tense ที่ได้พูดเอาไว้ในตอนที่แล้ว (แต่ต่างจาก Future Simple นะคะ ที่ความหมายของรูปแบบ will กับ be going to จะแตกต่างกันมากพอสมควรเลยล่ะค่ะ ถ้าจำไม่ได้ก็ลองกลับไปดูอีกครั้งนึงนะคะ) Continue reading หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense พร้อมตัวอย่าง →